Economic Singularity คืออะไร และทำไมมันจึงมีความสำคัญต่อมนุษย์ชาติมากในอนาคต โดยเฉพาะเพื่อนๆ ของผมที่ยังตามไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ครับ Economic Singularity หมายถึงสถานการณ์ในอนาคตที่เทคโนโลยีอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีความก้าวหน้าอย่างมากจนสามารถทำงาน และการดำรงชีวิตทั้งหมดที่มนุษย์ทำได้หรือทำได้ดีกว่ามนุษย์ทั้งหมด ซึ่งจะนำโลกปัจจุบันของเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในระบบเศรษฐกิจและสังคม ในสถานการณ์นี้ความสามารถของเครื่องจักรในการทำงานทุกประเภทจะทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แรงงานมนุษย์อีกต่อไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้ระบบเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ในรูปแบบเดิม เนื่องจากการผลิตจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติและไม่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรเหมือนในอดีต
ด้วยสิ่งนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานเกินรอ มันทำให้ผมจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องนำมาบอกกล่าว เตือน เพื่อนๆ ให้ทำความเข้าใจของบริบทที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างไรก็ตามมีนักวิชาการหลายฝ่ายยังมีความเห็นว่า Economic Singularity ยังเป็นแค่แนวคิดที่มีการถกเถียงและคาดเดากันอยู่ โดยมีหลายฝ่ายที่มองว่าอาจเกิดขึ้นในอนาคต หรือบางฝ่ายก็อาจเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้หรือเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในแง่ของผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
แต่สำหรับผม ผมมีความเห็นว่า ในอีกหกปีข้างหน้าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงในเศรษฐกิจโลก โดยได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ และพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nuclear Fussion (ไม่ใช่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือ พลังงานจากแบตเตอรี่ ฯลฯ อะไรพวกนั้นนะครับ) ช่วงเวลานี้จะเปลี่ยนวิธีที่เราจะต้องเข้าใจตลาด ธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจโดยพื้นฐาน ในฐานะมืออาชีพ นักลงทุน และผู้ประกอบการ เราต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือสําหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า
Economic Singularity หรือ เอกพจน์ทางเศรษฐกิจ: ความเป็นจริงใหม่
พวกเรากำลังเข้าใกล้จะถึงสิ่งที่ผมเรียกว่า “Economic Singularity หรือ ความเป็นเอกพจน์ทางเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นจุดที่กรอบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ภายในปี 2030 กําลังรวมกันของ AI หุ่นยนต์ และพลังงานหมุนเวียนจะเปลี่ยนทุกอุตสาหกรรม มันจะท้าทายความเข้าใจแบบเดิมของพวกเราเกี่ยวกับคุณค่า ผลผลิต และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งหมด
แนวคิดของ Economic Singularity เป็นการตระหนักรู้ว่าระบบเศรษฐกิจที่พวกเราพึ่งพามานานหลายศตวรรษจะหยุดชะงักและเปลี่ยนแปลงไปมากจนพวกเราจะไม่สามารถจดจํามันได้ว่า สิ่งเหล่านั้นพวกเราทำมันอย่างไร การหยุดชะงักนี้จะสร้างโอกาสที่ไม่มีใครเทียบได้สําหรับผู้ที่สามารถปรับตัวได้ หรือ ผู้ที่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวได้ก่อน แต่ในทางตรงข้ามมันจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากสําหรับผู้ที่ล้มเหลวในการทําเช่นนั้นด้วยเช่นกัน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อบริบทของการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อนๆอาจจะต้องค้นคว้าหาอ่านอีกเรื่องในหนังสือที่ชื่อว่า Life 3.0. ครับ เป็นหนังสือดีมากที่ผมขอแนะนำให้อ่านครับ และเพื่อนๆก็ควรทำความเข้าใจกับแนวความคิดของ context window, agent and text-to-action ด้วยจะทำให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้นครับ
พลวัตรของโลกกําลังที่ขับเคลื่อนเข้าสู่ Economic Singularity หรือ ความเป็นเอกพจน์ทางเศรษฐกิจ
1. AI และความรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด: AI กําลังปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยให้การเข้าถึงสิ่งที่เป็นความรู้ของมนุษย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดโดยพื้นฐาน ต่างจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก่อนหน้านี้ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ มันเป็น Entity ที่กําลังพัฒนาที่สามารถเรียนรู้ ปรับตัว และปรับปรุงแบบทวีคูณ ทุกวันนี้ AI ทํางานที่ IQ ของมนุษย์โดยเฉลี่ยที่ 100 ในหลายโดเมน แต่เพียงภายในอีกไม่กี่ปี เราคาดว่ามันจะเหนือกว่าความฉลาดของมนุษย์ตามลําดับความสําคัญอีกหลายเท่าๆ มันเรียนรู้จากกันและกันได้ และมีความทรงจำที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการเติบโตแบบทวีคูณนี้จะช่วยให้ AI มีประสิทธิภาพเหนือกว่ามนุษย์ในแทบทุกสาขา ตั้งแต่กฎหมายและการแพทย์ไปจนถึงการออกแบบเชิงสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ทางการเงิน มนุษย์ไม่สามารถทำได้อีกต่อไปครับ
2. หุ่นยนต์และการทดแทนแรงงาน: การรวม AI กับหุ่นยนต์ถูกตั้งค่าให้แทนที่แรงงานมนุษย์ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน บริษัทอย่าง Amazon จ้างหุ่นยนต์มากกว่ามนุษย์อยู่แล้ว และแนวโน้มนี้จะเร่งขึ้น หุ่นยนต์ Humanoid ที่สามารถทํางานหลายอย่างพร้อมกันจะเข้าสู่อุตสาหกรรมที่แรงงานมนุษย์ไม่สามารถเข้าไปแทนที่ได้ ซึ่งช่วยลดความต้องการแรงงานมนุษย์ได้อย่างมาก ดังนั้นในหนึ่งบริษัทหุ่นยนต์ตัวนี้จะทำหน้าท่าทุกอย่างจนถึง CEO มันจะดำเนินการทุกอย่างในแบบที่มนุษย์ทำไม่ได้ โดยไม่มีข้อผิดพลาดครับ
3. พลังงานหมุนเวียนและผลผลิต: การเปลี่ยนไปสู่พลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและจีน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสําคัญ เนื่องจากค่าไฟฟ้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าด้านพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานนิวเคลียร์ พวกเราจะเห็นผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามลําดับ การรวมกันของต้นทุนพลังงานที่ใกล้เป็นศูนย์และการเพิ่มขึ้นของผลผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่คาดไม่ถึงก่อนหน้านี้ ขนาดของแหล่งพลังงานจะมีขนาดเล็กลงมาก แต่ให้พลังงานที่ยาวนานเป็นหลายสิบปี ดังนั้นการเดินทางในอวกาศจะไม่ใช่สิ่งที่เหลือเชื่ออีกต่อไปครับ
สิ่งที่ผมพูดให้ฟังมันกำลังเกิดขึ้นทั้งหมด เพียงรอเวลาที่เปิดตัวเท่านั้นครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และทราบถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้มาก จึงอยากจะให้เพื่อนๆรับทราบและพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันครับ มิฉะนั้นเพื่อนๆจะไม่สามารถทำอะไรอีกต่อไปได้ ในโลกอนาคตครับ ในคราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังถึงปัญหาและอุปสรรคที่พวกเพื่อนๆกำลังจะเผชิญครับ
กิตติ ปิณฑวิรุจน์ / เขียนบทความ