
หรือเรากำลังเข้าสู่ “ยุคแห่งความโกลาหล”
สวัสดีครับ เพื่อนๆ เราจะมาคุยกันเรื่องอะไรดีละ วันนี้ เพื่อนๆ มีความรู้สึกเหมือนผม หรือ ไม่ว่า “พวกเรากําลังเข้าสู่ยุคแห่งความโกลาหล” เพราะอะไร รู้ไหม ในความเห็นของผม ผมคิดว่า ปี 2024
สวัสดีครับ เพื่อนๆ เราจะมาคุยกันเรื่องอะไรดีละ วันนี้ เพื่อนๆ มีความรู้สึกเหมือนผม หรือ ไม่ว่า “พวกเรากําลังเข้าสู่ยุคแห่งความโกลาหล” เพราะอะไร รู้ไหม ในความเห็นของผม ผมคิดว่า ปี 2024
ช่วงนี้ ราคาน้ำมันกําลังตกต่ำ เอามากๆ จนเกรงว่า แม้จะมีความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของอุปทาน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ราคาน้ำมันจะลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์อีก
คำถามที่ผมต้องถามตัวเอง คือ “ทำไมไมโครซอฟท์ถึงเข้าทำข้อตกลงมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปิดตัวไปในรัฐเพนซิลเวเนียไปนานแล้ว”
แนวโน้มที่คุณเห็นเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและลดการซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม กำลังเริ่มเห็นประจักษ์ขึ้นในหลายประเทศ
เมื่อพวกเราจะต้องเผชิญหน้ากันสิ่งท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจำต้องยอมรับและปรับตัวของเราให้เข้ากันสถานการณ์และบริบทใหม่ของโลกให้ได้ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราสามารถทําได้ตอนนี้ก็คือ
ในคราวที่แล้วผมได้พูดถึงความหมายของ Economic Singularity (เอกพจน์ทางเศรษฐกิจ) ตอนที่ 1 ไปบ้างแล้ว แต่คราวนี้ผมอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังถึงผลกระทบต่อธุรกิจและตลาดของพวกเราในระบบเศรษฐกิจดั้งเดิม โดยความเป็นจริงแล้วนัยของเอกพจน์ทางเศรษฐกิจนั้นลึกซึ้ง
สวัสดีครับ เพื่อนๆ เราจะมาคุยกันเรื่องอะไรดีละ วันนี้ เพื่อนๆ มีความรู้สึกเหมือนผม หรือ ไม่ว่า “พวกเรากําลังเข้าสู่ยุคแห่งความโกลาหล” เพราะอะไร รู้ไหม ในความเห็นของผม ผมคิดว่า ปี 2024
ช่วงนี้ ราคาน้ำมันกําลังตกต่ำ เอามากๆ จนเกรงว่า แม้จะมีความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของอุปทาน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ราคาน้ำมันจะลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์อีก
คำถามที่ผมต้องถามตัวเอง คือ “ทำไมไมโครซอฟท์ถึงเข้าทำข้อตกลงมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปิดตัวไปในรัฐเพนซิลเวเนียไปนานแล้ว”
แนวโน้มที่คุณเห็นเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและลดการซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม กำลังเริ่มเห็นประจักษ์ขึ้นในหลายประเทศ
เมื่อพวกเราจะต้องเผชิญหน้ากันสิ่งท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจำต้องยอมรับและปรับตัวของเราให้เข้ากันสถานการณ์และบริบทใหม่ของโลกให้ได้ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราสามารถทําได้ตอนนี้ก็คือ
ในคราวที่แล้วผมได้พูดถึงความหมายของ Economic Singularity (เอกพจน์ทางเศรษฐกิจ) ตอนที่ 1 ไปบ้างแล้ว แต่คราวนี้ผมอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังถึงผลกระทบต่อธุรกิจและตลาดของพวกเราในระบบเศรษฐกิจดั้งเดิม โดยความเป็นจริงแล้วนัยของเอกพจน์ทางเศรษฐกิจนั้นลึกซึ้ง