ค่าเหยียบแผ่นดินพร้อมประกันฯ
ปัจจุบันมีประมาณ 40 ประเทศทั่วโลก ที่เรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน และประเทศไทย ถือเป็นชาติแรกของโลก ที่เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน แล้วแบ่งเงินมาซื้อความคุ้มครองด้านประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะตอนนี้ภาคท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้หลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
โดยทาง คปภ.ขณะนี้ได้เร่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หาข้อสรุป “เปิดประมูล” หรือ “รวมกลุ่มรับประกัน” เผยความคุ้มครองจ่าย “ท็อปอัพ” เติมจากเพิ่มที่จ่ายกรณีประสบภัยจากรถ-เรือ-อาคารสาธารณะอยู่แล้ว
ส่วน “สมาคมประกันวินาศภัยไทย” กำลังหนุนนโยบายรัฐ ยืนยันรวมกลุ่มเข้าไปรับประกัน-คิดเบี้ยให้ต่ำที่สุด
นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผย ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยผ่านช่องทางอากาศเก็บ 300 บาทต่อคนต่อครั้ง และผ่านช่องทางบกเก็บ 150 บาทต่อคนต่อครั้ง ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะแบ่ง 50 บาท สำหรับซื้อประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุ เพื่อให้ความคุ้มครองนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนที่เหลือจะส่งเข้ากองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเชิญสำนักงาน คปภ. เข้าไปหารือเพิ่มเติมอีกครั้ง
ทั้งนี้ เงื่อนไขความคุ้มครองมีการหารือแนวทางกันไว้แล้ว โดยจะเป็นลักษณะความคุ้มครองแบบท็อปอัพ จากที่กฎหมายภายในประเทศให้ความคุ้มครองกับคนเกิดอุบัติเหตุไว้บางส่วนแล้ว เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 5 แสนบาท ประกันภัยเรือโดยสารภาคบังคับของกรมเจ้าท่า จะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 1 แสนบาท และประกันภัยอาคารสาธารณะ จะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 1 แสนบาท โดยหากเป็นการเกิดอุบัติเหตุทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุข้างต้น จะได้รับวงเงินชดเชยตามกรมธรรม์ประกันภัยตัวนี้สูงสุดกรณีเสียชีวิต 1 ล้านบาท วงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 5 แสนบาท
โดยรวมเงินช่วยเหลือการเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศหรือการเคลื่อนย้ายฉุกเฉินไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ และมีค่าปลงศพจ่ายตามจริงไม่เกิน 1.5 แสนบาท มีค่าชดเชยฟื้นฟูสภาพจิตใจจากเหตุจลาจล/ก่อการร้าย แบบวงเงินเหมาจ่าย 2 หมื่นบาท มีการชดเชยกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD) แบบวงเงินเหมาจ่าย 5,000 บาท และสูญเสียหรือเสียหายจากการหยุดชะงักของการเดินทาง จ่ายไม่เกิน 2,000 บาทต่อวัน ทั้งนี้ไม่เกิน 10 วัน ระยะเวลาคุ้มครอง 30-45 วัน
อาทิเช่น หากนักท่องเที่ยวต่างชาติประสบภัยจากรถ กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยสูงสุด 5 แสนบาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และจะได้รับเงินชดเชยจากประกันภัยตัวนี้เพิ่มอีก 5 แสนบาท (รวมวงเงินชดเชยสูงสุดที่ 1 ล้านบาท)”
ทั้งหมดโดยสรุป สิ่งที่จะส่งผลดีตามมาอีก ก็คือ เป็นการเปิดช่องทางให้ธุรกิจประกันภัยสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อดูแลความเสี่ยงนักท่องเที่ยวต่างชาติในเรื่องอื่น ๆ ได้มากขึ้น เช่น ประกันภัยเรือข้ามฟาก/ข้ามเกาะภายในประเทศ เป็นต้น”
อ.ฉัตรชัย ผาสุขธรรม / เขียนบทความ
#tiivarietytalk #ทีไอไอทอล์ค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #ประกันวินาศภัย