“พลังงานนิวเคลียร์และ AI— อนาคตที่เลี่ยงไม่ได้” (Nuclear power and AI— Unavoidable Future)
โดย ศิษย์ สุมาเต็กโซ
คำถามที่ผมต้องถามตัวเอง คือ “ทำไมไมโครซอฟท์ถึงเข้าทำข้อตกลงมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปิดตัวไปในรัฐเพนซิลเวเนียไปนานแล้ว”
ด้วยข้อตกลงนี้ ไมโครซอฟท์ สามารถที่จะนำพลังงานไร้คาร์บอนมาสนับสนุนศูนย์ข้อมูล AI ของไมโครซอฟท์ โดยคาดว่าโรงไฟฟ้านี้จะกลับมาเดินเครื่องในปี 2028 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและใช้พลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น
ในปัจจุบัน เพื่อนๆ จะเห็นว่า การที่หลายคนมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเงิน โดยมองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ผมจึงอยากจะชี้ให้เพื่อนๆ เห็นว่าบริษัท AI ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ครับ แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือ พื้นฐานของ ปัญญาประดิษฐ์ เพราะนี้ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่สําคัญ… และไม่ใช่บริษัท AI ด้วยซ้ำ ….. เพื่อนๆ “สังเกตคําพูดของผม นะ ครับ หลายปีต่อจากนี้ไป เมื่อเรามองย้อนกลับไปที่ความคลั่งไคล้ของ AI ที่เฟื่องฟู… การลงทุนอันดับต้น ๆ จะไม่ใช่บริษัทที่มีปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุด แต่จะเป็นบริษัท ที่ผู้ที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีนี้มากกว่า”
และ นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่มีใครพูดถึงเลยเมื่อพวกเขาพูดถึงภาค AI นั่นคือความต้องการพลังงานมหาศาลที่ไม่เคยมีมาก่อนของเทคโนโลยีนี้ – ความต้องการพลังงานที่เราไม่สามารถตอบสนองได้ในขณะนี้ และก็ยังอาจจะเป็นปัญหาในอนาคตด้วย ทำไมผมจึงคิดเช่นนี้ เรามาพิจารณาดูนะ ครับ ChatGPT ได้รับข้อความค้นหาเฉลี่ย 10 ล้านข้อความต่อวันแล้ว นั่นคือประมาณ 300 ล้านคําค้นหาต่อเดือน การวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน แสดงให้เห็นว่า AI ต้องใช้พลังงานประมาณหนึ่ง กิกะวัตต์ชั่วโมง (gigawatt-hour) ในการตอบคําถามเหล่านี้ โดย หนึ่งกิกะวัตต์-ชั่วโมง เทียบเท่ากับ เป็นพลังงานที่บริโภคโดยครัวเรือนราว 33,000 ครัวเรือนโดยประมาณ และนั่นสําหรับโปรแกรม AI เพียงโปรแกรมเดียว เท่านั้น …..
ปัญหานั้นดูจะแย่กว่ามาก มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิร์สต์ (The University of Massachusetts Amherst) พบว่า “การฝึก AI รุ่นเดียว จะสามารถปล่อยคาร์บอนได้มากเท่ากับรถยนต์ห้าคันในช่วงอายุการใช้งาน” เพื่อนๆ ต้องเข้าใน นะ ครับ ว่า นั่นไม่ใช่ การดําเนินงาน แต่เป็นเพียงการพัฒนา เท่านั้น และนั่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายพันของหลายพันของโมเดล AI ที่กําลังได้รับการฝึกฝนทุกวัน ….
นั่นเป็นเหตุผลที่ The New York Times รายงานว่า ภายในปี 2027 AI เซิร์ฟเวอร์ (AI Servers) คาดว่าจะใช้มากถึง 134 เทราวัตต์ ชั่วโมง (Terawatt hours) ต่อปี เพื่อนๆ จำง่ายๆ คือ เทราวัตต์ชั่วโมง (TWh) เป็นหน่วยวัดพลังงาน เท่ากับ 1,000,000,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง (GWh) หรือ 1 ล้านล้านวัตต์ชั่วโมง (Wh) หน่วยนี้มักถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการใช้หรือการผลิตพลังงานในระดับใหญ่ เช่น พลังงานของทั้งประเทศหรือพลังงานจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ครับ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในเวลาไม่ถึงสามปี AI จะมีการใช้พลังงานต่อปีเท่ากับประเทศต่าง ๆ เช่น อาร์เจนตินา เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ความต้องการพลังงานเหล่านี้ไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการยอมรับ AI อยู่ที่ 1% ของที่ที่เราจะอยู่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าตามข้อมูลภายในอุตสาหกรรม
หาก AI สามารถจะเจาะตลาดได้เพียง 10% หรือ 20% เรากําลังพิจารณาการใช้พลังงานในปริมาณที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมเข้าใจว่า คนที่อยู่ในวงการนี้ ตระหนักถึงปัญหานี้และพวกเขาเริ่มส่งเสียงเตือน ดังนั้น “หากเราต้องการสร้างระบบอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดที่เราต้องการ เราต้องมีพลังงานจํานวนมาก”
Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI
“โลกกําลังมุ่งหน้าเข้าสู่วิกฤตพลังงานที่เลวร้ายจริงๆ เพราะ AI เว้นแต่เราจะแก้ไขบางสิ่ง”
Arijit Sengupta ผู้ก่อตั้ง Aible และ Elon Musk พวเขาคาดการณ์ว่าภายในปี 2045 ความต้องการพลังงานในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นสามเท่าจากระดับปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความต้องการของ AI
พวกเขารู้เหมือนที่ผมรู้ว่าหากความต้องการพลังงาน มีไม่เพียงพอกับความต้องการของปัญญาประดิษฐ์ มันจะไม่ได้รับการตอบสนอง และเมื่อเป็นเช่นนั้น อุตสาหกรรมนี้จะไม่มีวันที่จะกลายเป็นกระแสหลักได้ และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ จะหยุดชะงัก นั่นเป็นเหตุผลที่เทคโนโลยีพลังงานใหม่นี้ จึงมีความสําคัญต่ออนาคตของ AI ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะตอบสนองความต้องการพลังงานที่ไม่เคยมีมาก่อนของภาค AI
สิ่งที่ผมกล่าวข้างต้น เป็นประเด็นที่ ประชาชนชาวไทย และรัฐบาลไทย ควรจะต้องตระหนัก และหันมาใส่ใจในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง เพราะ ประเทศไทยมีความท้าทายด้านการพัฒนาเทคโนโลยี AI เนื่องจากขาดแคลนทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างเต็มที่ หนึ่งในวิธีที่จะสนับสนุนการพัฒนา AI คือการสร้างพลังงานสะอาดและเพียงพอ เช่น พลังงานจากแหล่งหมุนเวียน (พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม) เพื่อให้รองรับการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลและการประมวลผล AI ซึ่งต้องใช้พลังงานมหาศาล การสนับสนุนจากภาครัฐและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเป็นสิ่งจำเป็น
กิตติ ปิณฑวิรุจน์ / เขียนบทความ