Search
Close this search box.

Economic Singularity (เอกพจน์ทางเศรษฐกิจ) ตอนที่ 2

ในคราวที่แล้วผมได้พูดถึงความหมายของ Economic Singularity (เอกพจน์ทางเศรษฐกิจ) ตอนที่ 1 ไปบ้างแล้ว แต่คราวนี้ผมอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังถึงผลกระทบต่อธุรกิจและตลาดของพวกเราในระบบเศรษฐกิจดั้งเดิม โดยความเป็นจริงแล้วนัยของเอกพจน์ทางเศรษฐกิจนั้นลึกซึ้ง โมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิม ตลาดการเงิน และนโยบายทางเศรษฐกิจจะต้องดิ้นรนหาทางออกเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพราะการพยายามดำเนินธุรกิจ หรือ การตลาดในแบบเดิม ก็เหมือนกับดิ้นร้นไปสู่ปากหุวเหวในที่สุด ดังนั้นพวกเราควรจะต้องพิจารณาสิ่งใหม่ๆให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยครับ:

1. โมเดลธุรกิจดั้งเดิมจะถูกหยุดชะงัก รูปแบบธุรกิจและการตลาดแบบปัจจุบัน มันทำให้เกิดความล่าช้ามาก ซึ่งเริ่มจากการผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนามาระยะหนึ่ง รวมไปถึงการเปิดตัวและทําการตลาด โดยใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีก่อนจะ launch เข้าสู่ผู้บริโภค สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแทนที่ด้วยนวัตกรรมใหม่ทันที AI จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบ ทดสอบ และปรับใช้ผลิตภัณฑ์ใน real-time ทําให้วงจรธุรกิจแบบเดิมล้าสมัยไปทันที เหตุผลง่ายๆครับ AI มีข้อมูลของผู้บริโภคและข้อมูลการตลาดจำนวนมากที่นำไปสู่การพิเคราะห์และวิเคราะห์ ได้ ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่าการใช้คนเป็นหลาย X เท่าครับ ดังนั้นบริษัทที่ล้มเหลวในการรวม AI เข้ากับการดําเนินงานจะไม่สามารถทันต่อความต้องการและภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว มันไม่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็วทั้งหลายทั้งปวงอย่างเดียว

2. ตลาดจะไร้เหตุผลมากขึ้นในประเด็นนี้ พวกเราต้องเข้าใจไว้ก่อนเลยว่า ณ เวลานี้ นักวิทยาศาสตร์กําลังหาทางที่จะเพิ่มขีดความสามารถของ AI โดยทําให้ AI สามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระหว่าง AI ด้วยกัน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบจําลองทักษะการสื่อสารที่เหมือนมนุษย์( human-like communication skills ) เพื่อให้ระบบ AI สามารถแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป้าหมายคือการลดความจําเป็นในการฝึกอบรมซ้ำอย่างกว้างขวางและชุดข้อมูลขนาดใหญ่โดยอนุญาตให้ AI สร้างความรู้ของกันและกัน ดังนั้นเมื่อ AI เรียนรู้งานหรือทักษะใหม่ มันสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นไปยัง AI อื่นได้ กระบวนการนี้ช่วยให้ AI ตัวที่สองทํางานที่คล้ายกันโดยใช้ข้อมูลและเวลาในการฝึกอบรมน้อยลง และเมื่อ AI สามารถแบ่งปันข้อมูลด้วยวิธีที่เหมาะสมยิ่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาธรรมชาติ ข้อมูลที่มีโครงสร้างหรือรูปแบบการสื่อสารอื่นๆ มันทำให้การพัฒนามีประสิทธิภาพ และรวดเร็วขึ้นแทนที่จะใช้ AI แต่ละตัวเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกับที่เราทำกับพนักงานใหม่ทําให้กระบวนการพัฒนาเร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเมื่อ AI มีความซับซ้อนมากขึ้น มันจะเริ่มครองตลาดในทุก segment แม้กระทั่งตลาดการเงิน การตัดสินใจด้วยความเร็วและมาตราส่วนที่เกินความเข้าใจของมนุษย์ที่จะไปถึง สิ่งนี้จะนําไปสู่ความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้นและความคาดเดาไม่ได้ ท้าทายรากฐานของการวิเคราะห์ทางการเงินและกลยุทธ์การลงทุน และการตลาดแบบดั้งเดิม เพื่อนๆก็น่าจะเป็นแล้วว่าการนำเอา Rob Trading ในตลาดไทยก็สร้างปัญหาให้กับ กลต ขนาดไหนมาแล้ว…

3. การจัดสรรเงินทุนจะต้องพัฒนา การเพิ่มและจัดสรรเงินทุนในปัจจุบันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้วิธีการดั้งเดิมเช่นการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไป (IPO) อาจไม่เหมาะสมในบางกรณี เพราะ IPO (Initial Public Offering): เป็นกระบวนการที่บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ซับซ้อน มันทำให้เกิดความท้าทายของ IPO ในภูมิทัศน์ปัจจุบัน: อาทิเช่น ความเร็วในการพัฒนา พวกเพื่อนๆก็ทราบแล้วว่า เทคโนโลยีและธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็ว การทำ IPO อาจใช้เวลานานและไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนั้น IPO มีข้อกำหนดและกระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน ซึ่งอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเวลาเป็นอุปสรรค ความผันผวนของตลาดของตลาดหุ้น อาจทำให้บริษัทเผชิญกับความท้าทายหากสภาพคล่องของตลาดไม่เอื้ออำนวยในช่วงเวลาของการทำ IPO นั่นคือปัญหาที่เราเผชิญมาโดยตลอด ครับ แต่ในโลกของ Economic Singularity มันมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยรูปแบบการระดมทุนใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น อาทิเช่น การเสนอขายเหรียญ แบบ ICO (Initial Coin Offering), STO (Security Token Offering) หรือ IEO (Initial Exchange Offering) อีกทั้งรูปแบบการลงทุน ก็ได้พัฒนาเป็นการลงทุนจากนักลงทุนร่วมลงทุนและทุนเอกชน หรือที่เราเรียกว่า Seed และ Series Funding หรือ Private Equity หรือ การระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิ้ง (Crowdfunding) หรือ การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeF)

ทางเลือกใหม่ จึงถือว่าสำคัญมันจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการระดมทุนใหม่ ที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าและปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และ เข้าถึงทั่วโลกด้วยข้อกำหนดที่ต่ำกว่าครับ

4. การเชื่อมต่อของมนุษย์จะมีค่ามากกว่าที่เคย: ในโลกที่ถูกครอบงําโดย AI มากขึ้น องค์ประกอบของมนุษย์จะกลายเป็นสิ่งพิเศษ อุตสาหกรรมที่พึ่งพาปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ เช่น การเดินทาง การดูแลสุขภาพ และบริการส่วนบุคคลจะคงคุณค่าไว้ นอกจากนี้ชุมชน—ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือ purpose-driven—จะมีบทบาทสําคัญในการให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของและวัตถุประสงค์แก่บุคคล

จากข้อมูลที่ผมกล่าวข้างต้น เพื่อนๆก็น่าจะพอมองออกแล้วนะครับว่า ทำไม economic singularity จึงมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และการทำธุรกรรมต่างๆของพวกเราต่อไป ในตอนหน้าผมจะคุยกันในเชิงลึกถึงสิ่งที่พวกเราควรทำเมื่อสิ่งเหล่านี้กำลังจะมาถึงครับ

ผมหวังว่าข้อมูลที่ให้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

กิตติ ปิณฑวิรุจน์​ / เขียนบทความ

แบ่งปันบทความนี้