ผมนั่งอ่าน Sahm Rules ที่นักเศรษฐศาสตร์น่าจะพอรู้เรื่องนะครับ แม้ผมจะจบจากนิติศาสตร์ก็ตาม แต่ด้วยพื้นฐานที่ชอบการลงทุนจึงสนใจเรื่องเหล่านี้ครับ กฎ Sahm นั่นตั้งชื่อตาม Claudia Sahm อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางสหรัฐและผู้ริเริ่มตัวบ่งชี้ “Sahm Rule” เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยสามเดือนล่าสุดของอัตราการว่างงานกับค่าเฉลี่ยสามเดือนต่ำาสุดในปีที่ผ่านมา เมื่อค่าเฉลี่ยสามเดือนล่าสุดสูงกว่าค่าเฉลี่ยสามเดือนต่ำสุด 0.5 เปอร์เซ็นต์ กฎ Sahm ทริกเกอร์ชี้ให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของภาวะถดถอยใหม่

กฎนี้ถือได้ว่าค่อนข้างจะแม่นมากครับ เพราะตั้งแต่ปี 1950 มีผลถูกต้องทุกครั้ง แต่ผิดเพียงครั้งเดียวคือ ในปี 1959 แต่แม้ในกรณีนั้นสหรัฐฯก็เข้าสู่ภาวะถดถอยในอีกหกเดือนต่อมา ตัวบ่งชี้ระบุสถานะภาวะถดถอยอีก 11 ครั้งอย่างถูกต้องทุกครั้งครับ

และเมื่อวานนี้กฎ Sahm ถูกกระตุ้นเมื่อค่าแตะ 0.53 เพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะพวกเขากังวลมานานแล้วเกี่ยวกับการว่างงานที่เพิ่มขึ้นซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Federal Reserve และตั้งแต่ปี 1990 ทุกครั้งที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 4% ภาวะถดถอยก็จะตามมา

ดังนั้นคำถามที่เราต้องถามตัวเรา ก็คือว่าเราอยู่ในภาวะถดถอยหรือไม่? ผมไม่มีลูกแก้ววิเศษที่จะมองเห็นอะไรในอนาคตได้หรอกครับ แต่สิ่งที่เราทําได้ก็คือ ต้องพิจารณาอย่างรอบครอบและต้องมีระเบียบวินัย เราจะต้อง เตรียมพร้อมที่ stop-losses ได้ทุกเวลาเมื่อตลาดพลิกผัน เพื่อนๆต้องไม่เพิกเฉยต่อสัญญาณต่างๆที่ออกมา นะครับ และจำไว้ตลอดเวลาว่าการกลับมาของเงินทุนมันสําคัญกว่าผลตอบแทนจากทุนนะครับ

เพื่อให้เพื่อนๆได้เห็นภาพชัดถึงผลของภาวะถดถอย ผมต้องย้อนภาพไปถึงภาวะถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2008 กวาดล้าง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์จากกองทุนเกษียณอายุไปหมด และตอนนี้ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมครับ แต่ภาวะถดถอยในคราวนี้มันจะเลวร้ายยิ่งกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 ซึ่งรวมถึง: ตกงานมากกว่า 2 ล้านคน หุ้นร่วงลงกว่า 20% และเศรษฐกิจจะเป็นขาลงเป็นระยะเวลานานครับ ระวังตัวด้วยก็แล้วกันครับ

กิตติ ปิณฑวิรุจน์​ / เขียนบทความ