ทุกคนรู้ดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกําลังสั่นคลอนมาก เพราะว่าเขากําลังนั่งอยู่บนหนี้ 34 ล้านล้านดอลลาร์ … ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสูญเสียมูลค่าไป 20% ตั้งแต่ปี 2020 … ในขณะที่รัฐบาลของเขายังคงสะสมหนี้อย่างรวดเร็วขึ้นและเร็วขึ้นจนน่าใจหายครับ — พวกเขาสร้างหนี้สินถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ทุกๆ 100 วัน … ในช่วงเวลาที่ผ่านมา …… มันดูเหมือนว่า พวกเขาไม่แคร์กับผลกระทบที่จะตาม ….สิ่งต่าง ๆ อยู่นอกเหนือการควบคุม … แต่ต้องจำไว้นะ ว่า พวกเขาไม่โง่นะครับ .. คนที่นั่งอยู่ในรัฐบาลเขาไม่โง่ แต่ฉลาดมากครับ คำถามก็คือ ทั้งที่รู้ถึงผลกระทบต่างๆ พวกเขาก็ยังทำต่อไป … หรือว่า เขามีแผนสำรองซ้อนไว้ … ที่พวกเราไม่รู้หรือเปล่า ???
ผมมีความเห็นว่า พวกเขากำลังน่าจะใช้วิธีที่รัฐบาลสามารถใช้เมื่อเกิดวิกฤตครั้งต่อไปเป็นข้ออ้างในการควบคุมมากขึ้น … และเปลี่ยนแปลงชีวิตในอเมริกาอย่างสิ้นเชิงอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน … และ สิ่งเหล่านี้ มันเกี่ยวข้องกับ Federal Reserve ด้วย และ การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง นี่จะเป็นจุดเปราะบาง ที่สำคัญมากที่พวกเราต้องจับตาดูครับ …… มันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับเปลี่ยนนโยบายระหว่างประเทศ … นโยบายการเมือง …. และที่สำคัญที่สุด คือ นโยบายการเงินครับ และเทคโนโลยี Draconian ที่สามารถกําหนดการเฝ้าระวังทางการเงินรูปแบบใหม่ในอเมริกา … สิ่งเหล่านี้ มันจะเหมือนโรคระบาดครับ .. ไม่ช้าไม่นาน มันก็จะมาถึงประเทศไทยเราครับ แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถหยุดสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้นได้ … แต่อย่างน้อย ผมคิดว่า พวกเรายังมีเวลาที่จะปกป้องตัวเองและอนาคตทางการเงินของครอบครัวเรา นั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากพูดสรุปเร่งด่วนนี้ให้พวกคุณได้รู้และทราบกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปครับ
เรามาเรียนรู้กันก่อนว่า “Darconian Technology” คืออะไร กล่าวง่ายๆครับ มันหมายถึงกลุ่มของเครื่องมือหรือระบบเทคโนโลยีที่รุนแรง หรือกดขี่อย่างมากในการใช้งานหรือผลกระทบ คําว่า “draconian” มาจาก Draco ผู้ร่างกฎหมายชาวเอเธนส์โบราณที่ขึ้นชื่อเรื่องประมวลกฎหมายที่เข้มงวดของเขา
ในบริบทของเทคโนโลยี ชุดที่โหดร้ายอาจรวมถึง:
- ระบบเฝ้าระวังที่ล่วงล้ำ
- เครื่องมือกรองและเซ็นเซอร์เนื้อหาที่เข้มงวด
- ระบบการให้คะแนนทางสังคมเชิงลงโทษ
- การควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวดสูง
- วิธีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ก้าวร้าว
เทคโนโลยีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับระบอบเผด็จการหรือองค์กรที่ควบคุมมากเกินไป พวกเขาให้ความสําคัญกับการควบคุม การปฏิบัติตาม และการลงโทษมากกว่าความเป็นส่วนตัว เสรีภาพ และสิทธิส่วนบุคคล สิ่งสําคัญคือต้องสังเกตว่าคําว่า “draconian” เป็นเรื่องส่วนตัวและการประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีอาจเป็นประเด็นถกเถียงได้ สิ่งที่บางคนคิดว่าจําเป็นสําหรับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพ คนอื่นอาจมองว่ารุนแรงเกินไปหรือรุกราน ก้าวล่วงเข้ามาในเรื่องส่วนตัว หรือ เสรีภาพมากเกินไป
เทคโนโลยีที่โหดร้ายเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจําวัน เสรีภาพส่วนบุคคล ความเป็นส่วนตัว และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม อาทิ เช่น
- การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง: การมีกล้องที่มีการจดจําใบหน้าในพื้นที่สาธารณะ การตรวจสอบกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร รวมทั้งการติดตามการเคลื่อนไหวทางกายภาพผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ
- การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่จํากัด: เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย การเข้าถึงข้อมูลและแหล่งข่าวที่จํากัด และ ผลการค้นหาที่กรองแล้ว
- ระบบเครดิตทางสังคม: คะแนนตามพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการเข้าถึงบริการหรือโอกาส การตำหนิ หรือให้รางวัลเกียรติประวัติ ในที่สาธารณะสําหรับการกระทําที่ถือว่าดีหรือไม่ดีโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งบางประเทศก็นำมาดำเนินการบ้างแล้วครับ
- การควบคุมไบโอเมตริกซ์: สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าที่จําเป็นสําหรับการทําธุรกรรมในชีวิตประจําวัน รวมทั้งการรวบรวม DNA สําหรับการรวมฐานข้อมูล เรื่องเหล่านี้รัฐบาลไทย แม้กระทั่งเอกชนบางบริษัทฯ ก็พยายามจัดเก็บเพื่อที่จะทราบถึงและระบุตัวตนที่แท้จริงครับ
- การบังคับใช้กฎหมายอัตโนมัติ: ระบบ AI-powered ออกค่าปรับหรือบทลงโทษโดยไม่มีการกํากับดูแลของมนุษย์ การใช้ Algorithm มาร่วมในการรักษาเชิงคาดการณ์ที่กําหนดรูปแบบการลาดตระเวน
- การตรวจสอบงาน: การติดตามประสิทธิภาพการทํางานอย่างต่อเนื่องในสํานักงานหรือการตั้งค่าการทํางานระยะไกล และ การประเมินประสิทธิภาพ ของ Algorithm
- การจัดการข้อมูลประจําตัวดิจิทัล: ID ดิจิทัลแบบรวมศูนย์ที่จําเป็นสําหรับบริการและธุรกรรมทั้งหมด และ ศักยภาพสําหรับข้อจํากัดหรือสิทธิพิเศษตามอัตลักษณ์
- การควบคุมข้อมูล: การเซ็นเซอร์การสื่อสารอัตโนมัติ โดย software ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลบนอุปกรณ์ส่วนบุคคล ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ก็มีการทำเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ผมคิดว่าพวกเราก็มิได้สังเกตุถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ครับ
- การตรวจสอบทางการเงิน: การติดตามธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด และ ข้อจํากัดในการซื้อหรือกิจกรรมทางการเงินตามสถานะทางสังคม ในประเด็นนี้เป็นหัวข้อที่ผมให้ความสนใจมากที่สุด และมีผลกระทบมากในอนาคตครับ
- ข้อจํากัดการเดินทาง: ระบบอัตโนมัติที่ควบคุมเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และ การติดตามตําแหน่งพลเมืองแบบ real time
เทคโนโลยีเหล่านี้ที่หน่วยงานราชการจะนำมาใช้ จะสามารถลดความเป็นส่วนตัวส่วนบุคคลได้อย่างมาก จํากัดเสรีภาพในการแสดงออกและการเคลื่อนไหว และสร้างบรรยากาศการควบคุมและความสอดคล้องในชีวิตประจําวันที่แพร่หลาย ขอบเขตของการดําเนินการจะแตกต่างกันไป แต่แม้แต่การยอมรับบางส่วนก็อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระของแต่ละบุคคลและพลวัตทางสังคมอย่างเห็นได้ชัด
เพื่อนๆ เห็นหรือยังครับว่า โลกในอนาคต มันจะถูกจำกัดสิทธิต่างๆอย่างมากมาย ดังนั้นผมคิดว่ามันไม่น่าจะแปลกอะไรที่ทำไมรัฐบาลอเมริกาถึงไม่ค่อยให้ความสนใจ หรือ พยายามที่จะแก้ไข … อย่างเช่น สภาพของคนไร้บ้าน การขโมย การปล้นทรัพย์ ในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศสหรัฐฯ หรือ แม้แต่ในประเทศยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส …. เพราะ เขาต้องการให้เกิดวิกฤติก่อนที่จะเข้าทำการเปลี่ยนแปลง เพราะถึงเวลานั้นคนส่วนใหญ่จะให้ความยินยอม โดยไม่จำต้องโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไปครับ
ผมว่า เราเอาแค่นี่ก่อน และผมค่อยๆ ลงลึกในแง่ทางการเงินครับ
กิตติ ปิณฑวิรุจน์ / เขียนบทความ