เพื่อนๆครับ เรากำลังจะบอกลาปี 2024 และก้าวผ่านเข้าสู่ ปี 2025 เราต้องยอมรับว่า ปี 2024 เป็นปีที่ Crypto เติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว ETF ของ BTC และ ETH, การผลักดันการยอมรับบิตคอยน์โดย BlackRock, การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สนับสนุน Crypto  และการที่ BTC ทะลุสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่แท้จริงของ Crypto ยังรออยู่ และต่อไปนี้คือ สิ่งที่ผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นสําหรับปี 2025 ที่อาจช่วยจุดประกายการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กับเพื่อนๆหลังจาก 1-2 ปีที่ผมพยายามให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้แก่เพื่อนๆ :

1. DeFi จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด

Decentralized Finance (DeFi) กำลังมีความซับซ้อนมากขึ้น คล้ายกับการเงินแบบดั้งเดิม (Traditional Finance) ในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เราเริ่มเห็นแนวโน้มนี้ชัดเจนขึ้นผ่านการยอมรับผลิตภัณฑ์อย่าง Pendle, Ethena, EtherFi และ Lombard

ในปี 2025 การใช้งาน DeFi จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น options, swaps และ derivatives อย่างตลาด swaps อัตราดอกเบี้ยที่มีมูลค่าถึง 465.9 ล้านล้านดอลลาร์ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมอาจถูกนําเข้าสู่ DeFi นอกจากนี้ผู้เล่นสถาบันรายใหม่เริ่มเข้าสู่ระบบ Crypto Ecosystem สร้างหมวดหมู่ใหม่ที่เรียกว่า On-Chain Finance การเข้าร่วมไม่ได้จำกัดเพียงการซื้อ Crypto ชั้นนำอย่าง BTC หรือ ETH เท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมเหล่านี้ยังขยายตลาดด้วยเครื่องมือ อย่างตลาดเงินกู้และการจัดหาสภาพคล่องโดยใช้สินทรัพย์ที่สนับสนุนโดยโลกจริง (Real-World Assets) เช่น Stablecoins ตัวอย่างบริษัทที่ผลักดันแนวคิดนี้คือ Securitize และ BlackRock … ในเรื่องนี้ผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะพัฒนา platform ในส่วนของ RWA ให้ใช้งานได้อย่างจริงจังในปีหน้าเช่นกัน 

2. Stablecoins จะเติบโตในฐานะ Use Case หลักของ Crypto

Stablecoins ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ Crypto ธรรมดา แต่พวกมันกําลังจะกลายเป็น โครงสร้างดิจิทัลของระบบการเงินโลก โดยในปี 2024 Tether เป็นบริษัท Crypto ที่ทํากําไรได้มากที่สุดด้วยผลกําไร 5.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก แซงหน้า BlackRock

ในขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมืองก็เริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่เอื้อต่อ Stablecoins มากขึ้น เช่น การสิ้นสุด Operation Choke Point 2.0 Stablecoins ถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินประจำชาติที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐและจัดการกับปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Visa และ Mastercard กำลังขยายธุรกิจในภาคส่วนนี้ รวมถึงการเข้าซื้อแพลตฟอร์ม Stablecoin อย่าง Bridge โดย Stripe ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในวงการ Crypto  และข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดตัว Stablecoin ของ Revolut

3. การแข่งขันด้านการยอมรับของผู้ใช้งานทั่วไป

ETF จะเป็นปัจจัยสําคัญที่ดึงดูดทุนใหม่เข้าสู่ Crypto โดยในปี 2025 หลังจากที่ ETF ของ BTC เปิดตัวสำเร็จ ETF ของ Ethereum ก็กําลังตามมา อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่ ETF ของ Solana (SOL) จะเปิดตัวภายในครึ่งแรกของปี 2025 และผมก็คิดว่า หากสามารถคว้าโอกาสจากการเติบโตของ SOL ในปีที่ผ่านมา ผมอยากให้เพื่อนๆลองเปิดใจรับสิ่งนี้ครับ ในปีเดียวกันนี้ แพลตฟอร์มโซเชียล Web3 อย่าง LensChain และ Farcaster จะเข้ามาแข่งขันกัน ซึ่งอาจนําไปสู่การมีแพลตฟอร์ม “Twitter/X และ Facebook” ของ Crypto ในที่สุด นอกจากนี้ Super Wallets ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายปี 2024 โดยเป็นทางเลือกที่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้งานใหม่แทนการใช้ศูนย์แลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEX) ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดนี้ เช่น Infinex และ DeFiApp กำลังแก้ปัญหาเรื่องประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ซึ่งเคยเป็นปัญหาในอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด

ส่งท้ายครับ โบนัสการคาดการณ์: MiCA จะขับเคลื่อนการขยายตัวของ Crypto ในยุโรป

กฎระเบียบ Crypto เป็นรากฐานสําคัญสําหรับโครงการใหม่ ๆ โดย MiCA (Markets in Crypto-Assets Regulation) ตั้งเป้าที่จะเพิ่มความสำคัญของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเงินยูโร ซึ่งอาจช่วยเชื่อมโยงการสร้างสรรค์นวัตกรรมนี้  อีกทั้ง National Sovereign หลายประเทศ อาทิ เช่น Poland and Netherland ก็ได้ออกกฎหมายมารองรับการนำเอา BTC เข้าเป็นเงินสำรองของประเทศด้วย ผมจึงเห็นว่า มันเริ่มขยับมากขึ้นแล้วครับ กลัวเพื่อนๆจะตกรถไฟเที่ยวสำคัญนี้ … ผมเตือนคุณแล้วนะ 

ศิษย์ สุมาเต็กโซ