“เรื่องราวดีๆ ที่ทั้ง
คนขายประกันชีวิต คนที่ยังไม่ซื้อประกันชีวิต
และคนที่คิดว่าซื้อแล้ว…แต่ยังไม่มากพอ
ต้องอ่าน” (ขอบอก)
บทบาทของการประกันชีวิตในการวางแผนทางการเงิน
การประกันภัยเป็นการสงวนรักษา และเสริมสร้างความมั่นคงของลูกค้า และในฐานะที่เป็นเครื่องมือการวางแผนการเงินที่สำคัญ และทรงพลังในหลายส่วน นักวางแผนการเงินต้องเข้าใจ และสามารถนำการประกันชีวิตไปประยุกต์ใช้ในการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินของลูกค้า เพื่อช่วยวางแผนแก้ปัญหาจากสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัย ปัญหาด้านสุขภาพ การทุพพลภาพ รวมถึงโครงการกองทุนเพื่อการเกษียณและการชดเชยการเสียชีวิต
การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ ว่าประกันชีวิตสามารถนำไปใช้เพื่อบรรเทาผลที่ตามมาทางการเงินของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การเสียชีวิตก่อนวัยนั้น ถูกนิยามว่าเป็นความตายของผู้หาเลี้ยงครอบครัว ที่ทิ้งภาระผูกพันทางการเงินที่ยังไม่เสร็จสิ้น สามารถเป็นต้นเหตุของความยากลำบากทางการเงินอย่างรุนแรงของผู้ต้องพึ่งพาที่ยังรอดอยู่ เนื่องจากส่วนของรายได้ที่เคยได้รับจากผู้หาเลี้ยงครอบครัวต้องขาดลง หากรายได้ทดแทนจากแหล่งอื่นๆ ไม่เพียงพอ หรือทรัพย์สินที่สะสมไว้ต้องหมดสิ้นไปด้วยแล้ว ผู้ต้องพึ่งพาที่ยังรอดอยู่จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างใหญ่หลวง ถือเป็นความโชคร้ายซ้ำ 2 ของผู้พึ่งพาของเขา
คราวเคราะห์แรกคือ การสูญเสียอย่างถาวรในรายได้ของผู้หาเลี้ยงครอบครัว ที่เขานำมาสู่ครอบครัว การสูญเสียรายได้อย่างไม่คาดคิดมาก่อนของผู้หาเลี้ยงครอบครัว สามารถเป็นประสบการณ์สะเทือนขวัญสำหรับผู้ต้องพึ่งพา
ผลกระทบอย่างที่ 2 ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรคือ ความต้องการค่าใช้จ่ายเพิ่มอย่างกะทันหัน เช่น ค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายด้านงานศพ และด้านกฎหมาย สถาการณ์ลักษณะนี้ถูกทำให้บอบช้ำมากขึ้น ด้วยความสูญเสียแบบอื่นที่มิใช่เงิน เช่น ความโศกเศร้า ความปวดร้าวทางจิต และความรู้สึกสูญเสีย
อีกแง่มุมหนึ่งซึ่งต้องการความใส่ใจของนักวางแผนการเงินคือ ผลกระทบของเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่แน่นอน และยากต่อการพยากรณ์ก็ตาม เราจำเป็นต้องมีค่าเผื่อจากผลของมันต่อความมั่นคงของลูกค้า มูลค่าแท้จริงของทรัพย์สินของลูกค้าสามารถลดลงอย่างมากจากเงินเฟ้อ สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อการคำนวณจำนวนเงินที่ถูกต้องที่จะเป็นต้องใช้ในยามเกษียณ เพราะหากอัตราเงินเฟ้อคือ 5 % ต่อปี ดังนั้นเงิน 10 ล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้านะมีค่าเพียงแค่ 6.1 ล้านบาท หมายความว่าหากลูกค้าจำเป็นต้องมีเงิน 6 ล้านบาท ในเวลาอีก 10 ปี เขาจำเป็นต้องมี 10 ล้านบาทในช่วงเวลานั้น ซึ่งเราสามารถเอาชนะได้ด้วย 2 วิธี คือ “วิธีคนทำงาน” ตราบเท่าที่บุคคลยังคงทำงานอยู่ รายได้ของเขาจะเพิ่มขึ้นด้วยแรงกดดันด้านการเงินในประเทศของเขาเอง และ “วิธีเงินทำงาน” เงินที่หามาได้นั้น เราสามารถเก็บออมและลงทุนเพื่อก่อให้เกิดดอกเบี้ย หรือรายได้มาต่อสู่กับผลกระทบของเงินเฟ้อ แม้ว่าการประกันชีวิตจะไม่สามารถป้องกันผลจากการกัดเซาะของเงินเฟ้อก็ตาม ยังคงสามารถถูกใช้เพื่อปกป้องทรัพย์สินของลูกค้าโดยการสร้างสินทรัพย์ที่ขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อชดเชยต่อเงินเฟ้อ
การประกันชีวิตในฐานะเครื่องมือสร้างความมั่นคง
ประกันชีวิตถือเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพต่อการเสริมสร้างความมั่นคง อันเป็นเพราะความสามารถในการสร้างทุนอย่างเป็นกอบเป็นกำ จากต้นทุนที่น้อยที่สุด เช่น เมื่อลูกค้าซื้อประกันชีวิตฉบับหนึ่ง และเริ่มต้นจ่ายเบี้ยประกันจำนวนน้อย สินทรัพย์ 10 ล้านบาทสามารถถูกสร้างได้ในทันทีหากมีการเสียชีวิตโดยไม่มีความจำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเติมแก่บริษัทประกันชีวิต ในทางตรงกันข้าม หากลูกค้าไปซื้อสินทรัพย์ เช่น บ้าน ลูกค้าจำเป็นต้องจ่ายค่าบ้านเต็มจำนวนก่อนที่บ้านจะเป็นของลูกค้าตามกฎหมาย หากลูกค้าได้รับเงินกู้เพื่อเป็นเงินใช้ซื้อสิ่งของ ลูกค้าอาจลงเอยด้วยการจ่ายเป็น 2 เท่าของจำนวนที่ค้างชำระเนื่องจากถูกคิดดอกเบี้ย และหากเมื่อผู้ซื้อเสียชีวิตก่อนการจ่ายคืนเงินจะกระทำเสร็จ ครอบครัวของเขาจะยังคงจำเป็นต้องจ่ายคืนส่วนที่ค้างอยู่นอกเหนือจากการเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งแล้ว ประกันชีวิตยังทำหน้าที่ปกป้องผู้ต้องพึ่งพาของผู้หาเลี้ยงครอบครัวจากการสูญเสียรายได้ในอนาคต อันเป็นผลจากการเสียชีวิตของผู้หาเลี้ยงครอบครัว
ประกันชีวิตเพื่อการเพิกถอนหนี้สิน
รูปแบบการใช้ชีวิตเชิงวัตถุในปัจจุบัน มีหนทางนับไม่ถ้วนที่บุคคลคนหนึ่งจะสร้างหนี้สิน เงินกู้ส่วนบุคคล เงินสดล่วงหน้า บัตรเครดิต และการเช่าซื้อ เป็นเพียงบางส่วนของเครื่องมือสร้างหนี้ยุคใหม่ในโลกการค้า เครื่องมือสร้างหนี้เหล่านี้หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจสอบ อาจสะสมจนเป็นจำนวนก้อนโดเกินกำลังรายได้ของคนนั้น หากสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้น เช่น เงินกู้ผ่อนบ้าน เงินกู้เพื่อการศึกษา และเงินกู้เพื่อการประกอบธุรกิจสามารถสร้างภาระความรับผิดชอบในสัดส่วนที่ใหญ่โตมหาศาล ซึ่งสามารถก่อให้เกิดรอยร้าวที่รุนแรง และเป็นทุกข์ ทรัพย์สมบัติของผู้กู้ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว การจ่ายคืนเงินกู้ในลักษณะนี้ต้องเป็นระยะเวลานานและจำนวนเงินต้นที่จะใหญ่ อันเป็นผลมาจากการจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล สามารถปกป้องคุ้มครองได้จากการประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาชนิดลดทุนประกันตามยอดเงินกู้ ซึ่งจะจ่ายยอดค้างจ่ายของเงินกู้ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต ก่อนเสร็จสิ้นการชำระสะสางเงินให้ครบจำนวน
ประกันชีวิตในฐานะทุนเพื่อสร้างรายได้
ประกันชีวิตยังสามารถเป็นประโยชน์ของการทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปเพราะความตาย โดยพิจารณาและกำหนดความจำเป็นด้านรายได้ของผู้ต้องพึ่งพาลูกค้า และบ่งชี้ให้เห็นถึงทรัพย์สินที่จะสร้างรายได้ แล้วคำนวณรายได้ที่อาจเกิดขึ้นจากทรัพย์สินเหล่านั้น ขอให้สังเกตว่ารายได้จากการทำงาน และจากธุรกิจอาจถูกลดลง หรือหมดสิ้นไปเนื่องจากความตาย และทุพพลภาพของบุคคล ดังนั้นรายได้จากการลงทุนของผู้ตายต้องเพียงพอต่อการทดแทนรายได้ที่สูญเสียไป แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นยาก นอกเสียแต่ว่าเขาจะเป็นบุคคลที่มั่งคั่ง เพื่อชดเชยต่อส่วนที่ขาด ส่วนใหญ่แล้ววิธีที่ดีที่สุดคือการซื้อประกันชีวิตมากพอต่อการสร้างทุนที่สามารถนำไปลงทุนให้เกิดรายได้มากพอ
ประกันชีวิตในฐานะที่เป็นเครื่องมือลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
บุคคลผู้มีฐานะมั่นคงส่วนใหญ่เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติขนาดใหญ่ ซึ่งไม่มีสภาพคล่อง เนื่องจากเงินทุนส่วนใหญ่นำไปลงทุนในทรัพย์สิน ธุรกิจต่างๆ และหุ้น เหลือสภาพคล่องส่วนน้อยไว้ในเงินฝากธนาคาร สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้ว ประกันชีวิตสามารถสร้างเงินสดกองกลางเพื่อสนองความจำเป็นด้านสภาพคล่องแก่สมบัติของพวกเขา หากปราศจากประกันชีวิตที่เพียงพอ ทรัพย์สินมีค่าบางอย่างอาจต้องถูกบังคับขายในราคาต่ำลงมา เพื่อหาเงินสำหรับความจำเป็นด้านเงินสด เช่น ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย ค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร และค่าใช้จ่ายงานศพ
ผลกระทบด้านการเงินของการเสียชีวิตก่อนวันอันควร
ผลกระทบด้านการเงินที่ไม่ดี เนื่องจากความตายของผู้หาเลี้ยงครอบครัวขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของครอบครัว เราจะมาพิจารณาผลกระทบต่างๆ รูปแบบของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร บนครอบครัว 3 แบบด้าน ดังนี้
คนโสด ทุกวันนี้ผู้คนแต่งงานกันช้าลง อันเป็นผลมาจากการสร้างอาชีพ และการก่อสร้างธุรกิจของพวกเขา ในหลายกรณีคนหนุ่มสาวเหล่านี้ยังมีพ่อแม่ที่ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน บางคนอาจต้องแบกรับภาระทางการเงินต่อการศึกษาของน้องร่วมสายโลหิต ในลักษณะนี้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ต้องพึ่งพาทั้งหลายจะต้องทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวง หากผู้ใหญ่หนุ่มสาววัยทำงานเหล่านี้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร ด้วยเหตุนี้ความคุ้มครองด้านการประกันชีวิตจำนวนสูงมากพอจะสามารถจัดหาความต้องการและพันธะทางการเงินเหล่านี้ได้
ครอบครัวรายได้ 2 ทาง ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น ปัจจุบันถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นคู่สามีภรรยาทั้ง 2 ทำงานเพื่อค้ำจุนครอบครัว ในกรณีนี้ การเสียชีวิตของผู้หารายได้คนหนึ่งสมารถเป็นสาเหตุของความตึงเครียดทางการเงินอย่างมากต่อคู่ชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งต้องหาเลี้ยงครอบครัวตามลำพัง สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงหากยังคงมียอดเงินกู้ค้างจ่ายที่จะต้องจ่ายคืนอยู่ พร้อมกับลูกๆ หลายคนที่ต้องค้ำชูดูแล หากเป็นเช่นนี้ เป็นการสำคัญที่พวกเขาต้องสร้างความคุ้มครองเพียงพอด้วยจำนวนทุนประกันที่สูงขึ้น เพื่อการปกป้องคู่ครองของพวกเขา
ครอบครัวแบบทั่วไป คู่ครองคนหนึ่งจะไปทำงานในขณะที่อีกคนจะดูแลครอบครัวและงานบ้านเรือน โดยปกติแล้ว สามีจะเป็นผู้ทำงานสร้างรายได้สำหรับครอบครัว ในขณะที่ภรรยาจะเป็นคนดูแลบ้าน ตามสถิติแล้วผู้ชายจะมีช่วงชีวิตสั้นกว่าผู้หญิง ดังนั้นในครอบครัวส่วนใหญ่สามีมักจะเป็นผู้ต้องเสียชีวิตก่อน สิ่งที่ทำให้เรื่องต่างๆ แย่ลงคือ เขาอาจเสียชีวิตโดยปราศจากประกันชีวิต หรือมีประกันชีวิตไม่มากเพียงพอ และทิ้งหนี้สินก้อนโตไว้ข้างหลังให้ครอบครัวสะสาง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ หัวหน้าครอบครัวจำเป็นต้องมีทุนประกันชีวิตก้อนใหญ่เพื่อครอบคลุมภาระความรับผิดชอบเหล่านี้