Search
Close this search box.
ประวัติการรักษาพยาบาลสำคัญอย่างไร

ทำไมต้องควรประวัติการรักษาพยาบาล?

วันนี้ผมอยากจะนำเสนอปัญหาและการแก้ไข ในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน และครอบครัว ครับ หลังจากได้ศึกษา ทั้งอ่าน และจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มาให้ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับตัวท่านเอง และครอบครัวของท่าน ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ แม้คนที่เรารักที่สุด เช่น พ่อ หรือ แม่ ครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ คนไทย หรือ แม้แต่ตัวเรา เวลาเจอปัญหาเรื่องสุขภาพ หรือ เมื่อประสบกับโรคภัยไข้เจ็บก็มักจะพยายามหาหมอที่เก่งที่สุด ผมเจอคำถามนี้มาบ่อยมากเลยว่า แม่เป็นมะเร็ง จะหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาแม่ จะไปหาหมอที่ไหน และชื่ออะไร อยู่รพ.ไหนหรือ ???

ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีหมอที่ไหนเก่งที่สุดหรอก หมอทุกท่านเก่งเหมือนกัน แต่ประสบการณ์อาจจะต่างจากกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกท่าน ไม่ค่อยพิจารณา ก็คือ ไม่มีหมอที่ไหนหรอกที่จะเก่งไปทุกเรื่อง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ประวัติการรักษาพยาบาลของท่าน ตั้งแต่แรกเกิด จนเติบโต และขึ้นคาน …… เพื่อให้หมอนั้นทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวท่านว่า ตั้งแต่แรกเกิดท่านมีข้อด้อยทางด้านพันธุ์กรรมหรือเปล่า แพ้ยาอะไรบ้าง ประวัติบิดา มารดา เป็นอะไร แพ้ยาอะไร ประวัติเหล่านี้มันสำคัญมากครับ อีกทั้งเมื่อท่านเติบโตมา การเจ็บป่วยต่างที่เกิดขึ้น ก็จะบ่งชี้ถึงความบกพร่องที่เกิดขึ้นในการพัฒนาการของท่าน อาทิ เช่น คนที่แพ้นมวัว แต่บิดา มารดา ก็ไม่รู้ว่าแพ้นมวัว ก็ให้ทานนมวัวมาโดยตลอด จนเด็กเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีโรคภัยไข้เจ็บติดตัว คือ ภูมิแพ้ ไม่ค่อยแข็งแรง และ เป็นหืบหอบบ่อย … นี่เป็นแค่ตัวอย่างๆต่างๆที่ผมพยายามรวบรวมมาให้ฟังครับ ดังนั้นผมสรุปได้เลยว่า ประวัติการรักษาพยาบาลของท่านมีความสำคัญมากในการที่จะปกป้องร่างกาย รวมทั้งการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องสำหรับท่านครับ เพื่อมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว …. ท่านจะมีชีวิตที่ยืนยาว แต่เจ็บป่วยตลอดเวลา ท่านอยากมีชีวิตยืนยาวหรือ เพื่อนๆอวยพรทุกวันเกิดให้มีสุขภาพแข็งแรง…แต่ท่านละเลย ไม่ปกป้องสิ่งที่ควรปกป้อง ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ แล้วจะมีชีวิตยืนยาวไปทำไมครับ นั่นคือคำถามที่ท่านต้องถามตัวเองมากกว่า…..

คนทั่วไปมักจะละเลยไม่ค่อยใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เจ็บป่วยเมื่อไรก็ค่อยไปหาหมอ ให้หมอทดลองรักษาลองยาจนกว่าจะหาย บางท่านเปลี่ยนหมอมาหลายคนหลายครั้งก็หาว่าหมอไม่เก่งบ้าง ไม่รู้จริง มันผิดหมดครับ ปัญหาคือ ท่านไม่ค่อยเก็บรักษาประวัติการรักษาพยาบาลเหล่านี้เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือไม่ก็ฝากความหวังไว้กับคลินิกหรือโรงพยาบาลในแต่ละครั้งที่ไป มีเพื่อนผมคนหนึ่งทิ้งประวัติของตนเอง พ่อแม่ ไว้กับโรงพยาบาล ไม่เคยเก็บรักษาไว้กับตนเอง กล่าวง่ายๆยืมจมูกคนอื่นหายใจมาโดยตลอดครับ นี่คือพฤติกรรมที่แย่มาก … ใช่เปล่า

ทุกวินาทีที่ท่านดำรงอยู่ในโลกใบนี้ มันมีความเสี่ยงภัยตลอดเวลา ท่านไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่า วันใดบิดามารดา และแม้แต่ตัวท่านจะประสบปัญหาสุขภาพที่อาจจะเป็นภัยถึงชีวิตได้ …. แม้แต่ท่านเดินทางต่างประเทศ ก็ตาม หากท่านเกิดอุบัติเหตุหรือโรคภัยในต่างประเทศ และต้องการการรักษาพยาบาลรีบด่วนและถูกต้องตามประวัติการเจ็บป่วยที่ท่านเคยได้รับและประสบมาก่อน สิ่งที่สำคัญสำหรับหมอในประเทศนั้นๆ นั่นคือ ประวัติการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องของท่านครับ ท่านจะให้ใครเสียเวลาติดต่อมายังโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ท่านใช้ประจำและมีประวัติการรักษาพยาบาลของท่านหรือญาติท่าน ให้ส่งแฟ้มประวัติการรักษาพยาบาลนั่น ไปยังโรงพยาบาลในต่างประเทศ และ ถ้าท่านมีประวัติมากกว่าหนึ่งโรงพยาบาล ท่านจะทำเช่นไรครับ ….. ใครจะเป็นคนทำให้ท่านในการรวบรวม เมื่อถึงเวลานั้น …. ค่าใช้จ่าย ใครจะรับผิดชอบ แล้ว มันจะทันเวลาสำหรับความต้องการที่รีบด่วนเหล่านั้นหรือ ไม่ …. ใช้ความคิดมากครับ ..

ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้วครับ นี่เป็นเพียงนวัตกรรมบางส่วนที่ถือกำเนิดจากแนวความคิดของผมเอง และเป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์ในโลกอนาคตครับ ผมเรียกมันว่า – e safety box ครับ มันเป็น virtual electronic box ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดเก็บเอกสาร electronic โดยใช้เทคโนโลยี blockchain เข้ามาช่วย และมีความมั่นคงในระดับเดียวกันกับของ Amazon or Google ครับ ท่านจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว หรือ ข้อมูล sensitive data เหล่านี้ การจัดระบบภายในให้ง่ายต่อการเรียกดู โอน หรือ copy ด้วยเพียงปลายนิ้วเท่านั้น โดยผ่านมือถือของท่านครับ

การเข้าถึงข้อมูลทำได้ทั่วโลกโดยผ่านระบบมือถือ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนในโลก การเข้าถึงข้อมูลมีได้ทั้ง online และ offline เมื่อมีสัญญาณ wifi แม้ท่านจะอยู่ที่ขั้วโลก ท่านก็สามารถเข้าถึงเอกสารของท่านได้ตลอดเวลา

ทีมงานผมเริ่มทำการตลาดมาสักระยะแล้วครับ แต่มุ่งไปยังสถาบันใหญ่ … ก่อนครับ แต่นี้เป็นเพียงบางส่วนของนวัตกรรมที่ผมคิดครับ มันยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่เคยแชร์ให้ฟัง แต่ละเรื่องสำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์มากเลยครับ

ดังนั้นในอนาคตประชากรไทยน่าจะมีแหล่งเก็บข้อมูลการรักษาพยาบาลของตนเองเพียงที่เดียว ไม่ว่าเขาจะเข้ารักษาในโรงพยาบาลไหน ตั้งแต่เกิดจนตายครับ เพื่อจะได้รับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง และ ตรงกับยีนส์ ของเขาครับ ไม่ต้องเป็นหนูทดลองยาอีกต่อไป …..

กิตติ ปิณฑวิรุจน์​ / เขียนบทความ

แบ่งปันบทความนี้