ธรรมชาติคนทำประกันชีวิต เขาจะเข้าใจถึงภาระที่เกิดขึ้นในการวางแผนอนาคตอย่างลึกซึ้ง เมื่อถึงอนาคต เขาจะสัมผัสความสุขได้อย่างล้ำลึก เพราะปกติคุณก็ต้องมีรายจ่ายสำหรับเป้าหมายทางการเงินเหล่านั้นอยู่แล้วทุกเดือน แต่ถ้าเกิดเหตุการณที่แย่ๆ ในชีวิต คือ ความตาย หรือ เจ็บป่วย มันจะทำให้สินทรัพย์ที่คุณเก็บไว้มีไม่เพียงต่อเป้าหมายทางการเงิน ปัญหาจะตามมา ดังนั้นประกันชีวิตถือเป็นสินค้าที่มี Power of Leverage สูง หรือก็คือ เป็นสินค้าที่มีอัตราทดสูง
เช่น จ่ายเบี้ย 30,000 จะมีเงินสดรอการแปลงสภาพ กรณีถ้าเสียชีวิต อยู่ที่ 3,000,000 บาท คุณจะสร้างสินทรัพย์ได้ 3,000,000 บาทได้อย่างไร?
แต่ถ้านำเงิน 30,000 บาทไปลงทุน ถ้าผลตอบแทน 8% จะต้องใช้กว่า 30 ปี!!!!! เลยนะ ถึงจะได้เงิน 3,000,000 บาท
ในกรณียังมีชีวิตอยู่ ประกันชีวิตจะมีมูลค่าที่เรียกว่า มูลค่าเงินสด ซึ่งขึ้นอยู่กับแบบประกัน ยิ่งถ้าเป็นประกันแบบสะสมทรัพย์จะมีมูลค่าเงินสดมาก
แต่ถ้าเกิด เหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิต คือเสียชีวิต มันจะกลายเป็น สินทรัพย์ประเภทเงินสดทันที เงินสดจำนวนนี้จะนำไปใช้จ่ายตามเป้าหมายการเงินต่างๆ เช่น การศึกษาบุตร คนทำประกันชีวิตจะไม่ได้ใช้แต่คนใช้จะไม่ได้เป็นคนทำประกันชีวิต
ธรรมชาติคนทำประกันชีวิตเขาจะเข้าใจถึงภาระที่เกิดขึ้นในอนาคต และ ทำด้วยความรักต่อคนข้างหลัง
อ.ฉัตรชัย ผาสุขธรรม / เขียนบทความ
#tiivarietytalk #ทีไอไอทอล์ค #ประกันภัย #ประกันชีวิต #ประกันวินาศภัย