ทองคำ และ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เคยเคลื่อนไหวร่วมกันในฐานะ conservative store of value assets ครับ แต่ระยะหลังๆนี้รัฐบาลสหรัฐฯก็นำตัวเองเข้าสู่กับดักการเงิน ในช่วงปี ๒๐๒๐ นักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับมูลค่า หรือ ความมั่นคงของพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนกังขาว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโรคระบาดโควิท ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงใน ๒ ปีที่แล้ว และนโยบายการคลังของสหรัฐฯ ดังนั้นความกังขาเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนเองรู้สึกถึงความเสี่ยงภัยที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ จึงนักลงทุนเริ่มทะยอยหาสินทรัพย์อื่นที่ดีกว่า
ตลาดคาดการณ์ว่า ด้วยการขาดดุลจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อปีและหนี้กองใหญ่ ซึ่งในรายงาน ณ วันนี้ หนี้ของสหรัฐฯ มีจำนวนถึง ๓๔.๖ ล้านล้าน และขาดดุลมากถึง ๑.๗ ล้านล้าน ซึ่งในอาทิตย์นี้ หนี้ของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นอีก ๑.๖๒ ล้านล้าน หนี้สินของสหรัฐฯมีทางเดียวที่จะจ่ายคืนได้ นั่นคือการ “พิมพ์” เงิน มาใช้หนี้เท่านั้น ปัญหาเหล่านี้เริ่มจะรุนแรงขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงอยู่เป็นระยะเวลายาวนานขึ้น ทำให้รัฐบาลมีหนี้จ่ายดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ประกอบกับหนี้ที่เกิดจากนโยบายต่างประเทศอีกส่วนหนี่ง สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักๆที่นักลงทุนจึงหลบหนีไปสู่ทุกสิ่งที่ไม่สามารถพิมพ์ได้ นั่นก็ ทองคำ และ Bitcoin รวมทั้ง ตราสารทุน อสังหาริมทรัพย์ บริษัทเทคโนโลยี ฯลฯ
ในสถานการณ์เช่นว่า นี้ เพื่อนๆ คิดว่า สินทรัพย์ อะไร หรือ ที่จะเป็นผู้ชนะ สินทรัพย์อะไรหรือที่ไม่สนใจความผันผวนในแต่ละวัน และสินทรัพย์อะไรหรือ ที่มีคุณสมบัติจํากัดที่ไม่สามารถลดทอนได้
หากเพื่อนๆ เข้าใจ สินทรัพย์นั่นก็จะเป็นท่าเรือที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนที่กําลังมองหาที่พักพิงจากพายุเฮอริเคนที่กำลังจะโหมกระหน่ำเข้ามาครับ เพื่อนๆครับหากคุณเข้าใจภาพรวมนี้ การเก็บเงินสดไว้มากจะเป็นตัวทําละลายความมั่งคั่งของท่านในอนาคต และคุณน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้นะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
กิตติ ปิณฑวิรุจน์ / เขียนบทความ