Search
Close this search box.
ก่อนขายประกัน 5 ข้อแนะนำที่ตัวแทนขายควรรู้

ก่อนขายประกัน 5 ข้อแนะนำที่ตัวแทนขายควรรู้

ก่อน ขาย ประกัน 5 ข้อแนะนำที่ตัวแทนประกันควรรู้

  1. จุดประสงค์ของการทำประกัน
    ควรทราบแบบประกันที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า เช่น หากต้องการทำประกันเพื่อคุ้มครองหนี้สิน ควรเลือกทำประกันชนิดชั่วระยะเวลา (Terms) ที่เน้นความคุ้มครองในระยะสั้นถึงกลาง เช่น 5 ปี หรือ 10 ปี เป็นต้น โดยการเลือกแบบประกันที่เหมาะสม
  2. ทำความเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ครบถ้วน
    เนื่องจากประกันแต่ละแบบจะมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ทั้งยังมีข้อกำหนดและข้อห้ามที่ไม่เหมือนกัน จึงควรอ่านข้อมูลให้ครบถ้วนโดยละเอียด มิเช่นนั้นอาจเสียสิทธิบางประการได้ หากไม่ทำตามเงื่อนไข เช่น ประกันสุขภาพจะมีระยะเวลารอคอย (Waiting period) หรือระยะเวลาที่ผู้ซื้อประกันจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ไม่สามารถเคลมค่ารักษา หรือเรียกร้องเงินชดเชยได้เลย ซึ่งระเวลารอคอยมีตั้งแต่ 30 60 90 หรือ 120 วัน ตามที่แต่ละกรมธรรม์กำหนดไว้
  3. ความคุ้มครองที่เพียงพอ
    ก่อนทำประกันเราต้องประเมินใหเลูกค้าว่า ความคุ้มครองที่เขาต้องการนั้นมากน้อยขนาดไหน เพราะหากทำประกันมากเกินความจำเป็น อาจส่งผลให้การบริหารความเสี่ยงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอและจ่ายเบี้ยมากโดยไม่จำเป็น แต่หากทำน้อยกว่าความจำเป็น ก็อาจจะนำไปสู่ความผิดพลาดในการป้องกันความเสี่ยงได้ เช่น ปัจจุบันมีภาระหนี้ที่ต้องรับผิดชอบมูลค่า 10 ล้านบาท แต่ทำประกันคุ้มครองชีวิตไว้เพียง 5 ล้านบาท เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจากไปก่อนวัยอันควร จะทำให้ภาระหนี้ที่เหลือ 5 ล้านบาทตกไปเป็นภาระของครอบครัว ดังนั้น ความคุ้มครองที่เพียงพอจึงเป็นเรื่องจำเป็น
  4. ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน
    ลักษณะการจ่ายเบี้ยประกันโดยทั่วไปส่วนใหญ่เป็นพันธะผูกพันมากกว่า 1 ปี จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องประเมินความสามารถในการจ่ายเบี้ยระยะยาวของตัวเราเองด้วย เพราะหากไม่สามารถจ่ายเบี้ยได้ครบตามกำหนด อาจทำให้เขาเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับ ยกตัวอย่าง ประกันสะสมทรัพย์ 12.5 จ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 12 ปี แต่หากผู้ซื้อประกันสามารถจ่ายได้เพียง 1-2 ปีแรก ก็อาจทำให้ได้รับผลประโยชน์ไม่เต็มจำนวนหรือไม่ได้รับผลประโยชน์เลยในบางกรมธรรม์
  5. ประกันไม่ได้มีไว้แค่ลดหย่อนภาษี
    ประกันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้สำหรับลดหย่อนภาษีที่หลายคนเลือกใช้ แต่เราก็ไม่ควรซื้อประกันแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น เพราะหน้าที่หลักของประกันคือการป้องกันความเสี่ยง อีกทั้งยังสามารถวางแผนมรดกและวางแผนเพื่อการเกษียณให้ลูกค้าได้ด้วย

ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญในการวางแผนและบริหารการเงินให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน เพื่อให้เราได้รับสิทธิประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ

ในองค์ประกอบที่สำคัญของการวางแผนการเงินที่ตัวแทนควรรู้ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนขายประกัน

อ.ฉัตรชัย​ ผาสุขธรรม​ / เขียนบทความ

#tiivarietytalk #ทีไอไอทอล์ค​ #ประกันภัย #ประกันชีวิต #ประกันวินาศภัย

แบ่งปันบทความนี้